Header Ads

A-book และ B-book


forex มี 2แบบ คือ A-book และ B-book 


สำหรับเราๆ ท่านๆ ที่เทรด Forex กันอยู่ ผมเชื่อว่ามีหลายๆ ท่านยังไม่ทราบว่า A-book และ B-book คือ อะไร เอาสั้นๆ ง่ายๆ อ่านแล้วไม่ปวดสมองคือ 










          A-book คือ บัญชีเทรดที่โบรกเกอร์นำคำสั่งซื้อของเราเข้าตลาดโดยตรง โดยจะกินค่าสเปรสและค่าคอมมิชั่นจากการเทรดของเรา ดังนั้นเราเทรดได้หรือเสียโบรกก็ไม่ได้รับผลกระทบ โบรกประเภทนี้จะไม่โกงเราในรูปแบบต่างหรือเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจอย่างไรโบรกแบบนี้ก็ไม่ปิดหนี เพราะไม่ได้รับผลกระทบนั้นเอง


          B-book คือ บัญชีเทรดที่โบรกเกอร์ไม่ได้ส่งเข้าตลาดจริงๆ ง่ายๆ คือ โบรกรับเป็นเจ้ามือเสียเอง ดังนั้นเมื่อเราเทรดได้โบรกก็จะเสียผลประโยชน์ ถ้าเราเทรดเสียโบรกก็จะกำไร ดังนั้นโบรกเกอร์ประเภท B-book จึงมีรูปแบบการโกงลูกค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น การดึงไส้เทียน การดีเลย์คำสั่ง หรือการถ่างสเปรสเกินจริง หรือ แม้กระทั้งปิดโบรกหนี เป็นต้น โบรกประเภทนี้จึงจัดว่าเป็นโบรกที่ผิดกฏหมาย


       ความเห็นส่วนตัวของผมนะอาจจะจริงหรือไม่จริงผมไม่ทราบ คือ โบรกบางโบรกจะเป็นโบรกที่ถูกกฏหมายจริง (อย่าถามผมนะว่าโบรกไหน ตรงนี้ผมก็ไม่รู้) แต่ก็จัดกลุ่มลูกค้าไว้ 2 กลุมคือ กลุ่มที่โบรกรับกินเอง คือ กลุ่มที่เทรดเสียบ่อยๆ ก็จะจัดให้อยู่ใน B-book ส่วนกลุ่มลูกค้าที่เทรดได้ตลอด ทางโบรกจะจัดให้อยู่ในกลุ่ม A-book ตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม ดังนั้นตรงส่วนนี้ผมแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ ตามความคิดของผม แต่จะจริงหรือไม่จริงตรงนี้ผมไม่ทราบ


      แล้วผมเลือกเทรดโบรกเกอร์แบบไหน….หลักการเลือกโบรกของผมไม่มีอะไรมากเพราะผมไม่ได้มีทุนในพอทเยอะ ส่วนมากจะนิยมปั้นพอทเอามากกว่า พอมีกำไรแล้วถอนเลย ดังนั้นจึงเลือกโบรกที่คนใช้งานกันเยอะๆ ฝากถอนง่ายและรวดเร็ว เป็นหลักครับ

แต่ตอนนี้จะมีการเพิ่มนิดนึงเพราะมีตัวแทนเพิ่มจะแบ่งดังนี้ 

   A-book คือ บัญชีเทรดที่โบรกเกอร์นำคำสั่งซื้อของเราเข้าตลาดโดยตรง โดยจะกินค่าสเปรสและค่าคอมมิชั่นจากการเทรดของเรา.....พวกนี้ส่วนมากเป็นธนาคาร เกี่ยวกับการเงินเทียบกับไทยเช่น กบข. สำนักงานประกันสังคม ประกันชีวิต กองทุนต่างต่าง ประกันออมยาว เป็นต้น ที่ทำเป็นโบรกเกอร์ พวกนี้โปรแกรมจะมีโปรแกรมเทรดที่รายย่อยเอามาใช้ไม่ได้เป็นโปรแกรมเทรดโดยเฉพาะเท่านั้น สังเกตที่เลือกเลเวอเรจพวกนี้จะให้น้อยกว่า 500 ครับ

   B-book คือ บัญชีเทรดที่โบรกเกอร์ที่มีการส่งเข้าตลาดบางส่วนและบางส่วนไม่ส่งไปสังเกตที่เลือกเลเวอเรจพวกนี้จะให้สูงมากเกิน 500 ขึ้นไปดังนั้นเมื่อเราเทรดได้โบรกก็จะเสียผลประโยชน์ ถ้ามีข่าวแรงจะลดให้เหลือแค่ 200 - 300 ถ้าเราใส่ล็อคมากจะเสียเปรียบโบรกก็จะกำไร ดังนั้นโบรกเกอร์ประเภท B-book จึงมีรูปแบบการโกงลูกค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น การดึงไส้เทียน การดีเลย์คำสั่ง หรือการถ่างสเปรสเกินจริง หรือ แม้กระทั้งปิดโบรกหนี เป็นต้น โบรกประเภทนี้จึงจัดว่าเป็นโบรกที่ระวังปานกลางเพราะพวกนี้มีการทำตลาดมีการตรวจสอบ

ประเทศที่มีหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องซึ่งตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Forex

o สหรัฐอเมริกา: National Futures Association (NFA) และ Commodity Futures Trading Commission (CFTC)

o สหราชอาณาจักร:หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน (FCA) และหน่วยงานกำกับดูแลพรูเด็นเชียล (PRA)

o ออสเตรเลีย:คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนออสเตรเลีย (ASIC)

o สวิตเซอร์แลนด์ :คณะกรรมการธนาคารกลางสวิส (SFBC)

o เยอรมนี : Bundesanstalt für Finanzdienstleistungsaufsicht (BaFIN)

o ฝรั่งเศส: Autorité des Marchésการเงิน (AMF)

ยิ่งมีการตรวจมากยิ่งดีโบรกจะไม่โกงเรามากเราเอาเงินไปแล้วได้กลับมาส่วนมากมีการรีวิวตามเว็บไชต์ต่างต่างเราต้องสังเกตเอา จุดสังเกตพวกนี้จะมีค่าเงินเทรดหลายแบบ โอนเงินเข้าได้หลายทาง ไม่พิตค่าเงิน โอนเงินเร็ว

    c-book คือ บัญชีเทรดที่โบรกเกอร์ไม่มีการส่งเข้าตลาดเป็นการรับชื้อของโบรกเช่น นักเทรดชื้อขึ้นแล้วโบรกจะชื้อตรงข้ามหรือเรียกว่าระบบ dd ไม่ใช่ ecn stp หรือ dma แต่บางครั้งก็อ้างว่าเป็น ecn โดยส่งคำสั่งที่ 0.01 ได้ พวกนี้มีการรับรองพวกไชปรัสอย่างเดียว และไม่มีรายชื่อในสารบบใน myfxbook และไม่มีการรีวิวมาก การตลาดจะเน้นพวก รีเบต ผิดกับพวกแรกจะเน้น โรยัลตี้ ส่วนมากเป็นโบรกตัวแทนกินค่าคอมแบบหักจากกำไรที่เราเทรดและสังเกตว่าพวกนี้ไม่มีค่า swap

กลุ่มนี้พอเอาเงินได้ระดับนึงจะเสี่ยงการปิดและพวกนี้เปิดโดยการทำแบบเปิดสอนแต่จริงแล้วคือโบรกเถื่อน การตลาดพวกนี้จะเน้นรีเบตแบบ mlm แต่การลงทุนไม่ใช่แบบ mlm

    d-book คือ บัญชีเทรดที่โบรกเกอร์ไม่มีการส่งเข้าตลาดแต่จริงแล้วคือโบรกเถื่อน การตลาดพวกนี้แบบ mlm แต่การลงทุนก็เป็นแบบ mlm จะอ้างว่ามีเอไอดีมากกำไรทุกวันได้เท่ากันทุกเดือน พอตรวจดีดีว่าจะตรวจเจอว่าเจ้าของไม่แสดงตำแหน่ง

ไม่มีความคิดเห็น